วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

i pad mini

รู้จักกับ i-pad กันก่อน


ไอแพด คือ แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบและพัฒนาโดยบริษัทแอปเปิล โดยมีหน้าที่หลักในด้านมัลติมีเดียในด้าน ภาพยนตร์ เพลง เกม อีบุ๊ก และท่องเว็บไซต์ ขนาดและน้ำหนักของไอแพดมีขนาดเบากว่าแล็ปท็อป โดยมีน้ำหนัก 680 กรัม และ 601 กรัม สำหรับไอแพดรุ่นแรกและไอแพดรุ่นสองตามลำดับ

ไอแพด มินิ  เป็นอุปกรณ์ประเภทแท็บเล็ต รุ่นที่ 5 ของบริษัท แอปเปิล เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2012 ณ สำนักงานแอปเปิ้ล ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ในรุ่นนี้ มีการเปลี่ยนแปลหลายอย่างไปจาก นิวไอแพด กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซลและบันทึกวิดีโอระดับ 1080p ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด VGA มีระบบปรับความสว่างและโฟกัสอัตโนมัติ และยังรองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ 4G LTE วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ.2012 นี้





ประสิทธิภาพของ iPad mini

สเปกที่ใช้นั้น เรียกได้ว่าถอดแบบมาจาก iPad 2 แทบจะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น
  • ชิปประมวลผล Apple A5 ความเร็ว 1 GHz
  • RAM 512 MB
ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานนั้นไม่ทิ้งห่างไปจาก iPad 2 และ iPhone 4S ซักเท่าไร ซึ่งล่าสุดก็มีการทดสอบด้วย GeekBench ออกมาแล้ว พบว่า iPad mini สามารถทำคะแนนได้สูงกว่า iPad 2 และ iPhone 4S อยู่เล็กน้อย
 
จอแสดงผล
จอที่ใช้ใน iPad mini เป็นจอที่ใช้พาเนล IPS ขนาด 7.9 นิ้ว ความละเอียด 1024 x 768 โดยมีค่าความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 163 ppi ซึ่งสูงกว่าใน iPad 2 ซึ่งมีแค่ 132 ppi เท่านั้น ทำให้ภาพที่เราเห็นบน iPad mini จะมีความเนียนกว่าบน iPad 2 อยู่พอสมควร แต่ก็ไม่ถึงกับระดับ Retina Display เหมือนใน iPad with Retina Display ที่มีจอขนาด 9.7 นิ้ว
นอกจากนี้ที่จอยังมีระบบตรวจจับการวางมือตรงขอบจออีกด้วย ทำให้ผู้ใช้สามารถถือ เพื่ออ่านหนังสือได้โดยไม่ต้องกังวลว่าเมื่อนิ้วไปโดนส่วนริบขอบจอแล้วจะเป็นการเปลี่ยนหน้าหรือสั่งงานแอพโดยไม่ตั้งใจ
กล้องถ่ายภาพ
ด้านของกล้องถ่ายภาพก็ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่า iPad รุ่นก่อนๆ หน้า โดยกล้องหลังมีความละเอียดการถ่ายภาพสูงสุดที่ 5 MP ในขณะที่ iPad 2 มีความละเอียดการถ่ายภาพจากกล้องหลังเพียง 0.7 MP เท่านั้น ส่วนกล้องหน้าของ iPad mini ก็มีความสามารถในการถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงสุด 1.2 MP ส่วนของ iPad 2 นั้นมีความละเอียดเพียง 0.3 MP เท่านั้นเอง ทำให้ iPad mini เหมาะสำหรับการใช้งาน FaceTime มากยิ่งขึ้นกว่าเก่า
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
ตัวของ iPad mini นั้น มีให้เลือกทั้งรุ่น WiFi และ WiFi+cellular ซึ่งส่วนของ cellular นั้นก็รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE ด้วย เช่นเดียวกับ iPad 3 และ iPad 4 ส่วนของ WiFi นั้น รองรับการเชื่อมต่อมาตรฐาน 802.11a/b/g/n ซึ่งตัวของมาตรฐาน n นั้น รองรับการใช้งานทั้งคลื่นความถี่ 2.4 GHz (คลื่นที่ใช้งานทั่วไป) และความถี่ 5 GHz (เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ) ซึ่งที่ความถี่ 5 GHz จะทำให้สามารถใช้งาน WiFi ได้ที่ความเร็วสูงกว่า 2.4 GHz ด้วย แต่ทั้งนี้ตัวกระจายสัญญาณ เช่น WiFi Router หรือ Access Point ต้องรองรับการปล่อยคลื่นที่ 5 GHz ด้วย
บอดี้และรูปร่างตัวเครื่อง
ส่วนของตัวเครื่อง iPad mini นั้น เป็นส่วนผสมระหว่าง iPad กับ iPhone 5 ครับ โดยด้านหน้านั้นคงหน้าตาคล้ายๆ เดิมไว้ จะมีก็ส่วนขอบจอด้านข้างที่มีความบางกว่า iPad ปกติ วัสดุที่ใช้เป็นกรอบหน้าก็ยังคงเป็นกระจกเช่นเดิม ส่วนด้านหลังนั้นจะคล้ายคลึงกับ iPhone 5 ทั้งวัสดุที่เลือกใช้เป็นอะลูมิเนียมเคลือบสี รวมไปถึงสีสันที่มีให้เลือกทั้งรุ่นสีดำและสีขาวก็ใช้สีโทนเดียวกับฝาหลังของ iPhone 5
ทั้งนี้จุดที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ที่สุดก็คือความบางของตัวเครื่องที่เหลือเพียง 7.2 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักก็เพียงแค่ประมาณ 300 กรัม ซึ่งเบากว่า iPad ปกติถึงครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งในจุดนี้จัดว่าเป็นข้อดีที่เห็นได้ชัดของ iPad mini เลยทีเดียว โดยจากการรีวิวของสื่อต่างประเทศ ก็ต่างให้ความเห็นว่าสามารถจับถือ iPad mini ได้ถนัดมือ และยังประทับใจกับน้ำหนักที่เบาด้วย
ภาพรูปร่างหน้าตาของ iPad mini  




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น