วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

คอมพิวเตอร์กับอาเซียน

คอมพิวเตอร์กับอาเซียน

อาเซียนก็เป็นอีกหนึ่งคำที่คนไทยรู้จักกันมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็เพิ่งรู้จัก แต่อีกหลายๆคนก็รู้จักคำนี้เป็นอย่างดีแล้ว ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศของกลุ่มประเทศอาเซียน คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่กำลังตื่นตัวและเป็นพลังสำคัญในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประจำวันทั้งทางตรงและทางอ้อม อีกทั้งไทยยังมีบทบาทมากมายด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งในตัวอาเซียนเอง รวมไปถึงทั่วโลกอีกด้วย

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอาเซียน

อาเซียน (ASEAN) หรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of South East Asian Nations) เป็นองค์กรทางภูมิรัฐศาสตร์และองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่า เหลือเพียงตีมอร์ตะวันออก ที่เป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยังไม่เป็นสมาชิก แต่ก็พยายามที่จะเป็นสมาชิกอยู่
ในปัจจุบัน คิดเป็นพื้นที่ของกลุ่มประเทศอาเซียนประมาณ 4.5 ล้านตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 560 ล้านคน (ข้อมูลในปี พ.ศ. 2549) โดยส่วนใหญ่มีมีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 27-36 °C พืชพรรณธรรมชาติเป็นป่าฝนเขตร้อน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกก็มีหลากหลายโดยเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์เกษตร มีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง สับปะรด ยางพารา ปาล์มน้ำมันและพริกไทย
สำหรับเป้าหมายของการตั้งกลุ่มอาเซียนนั้น จากสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้มีการสรุปแนวทางของอาเซียนไว้จำนวนหกข้อ ดังนี
  1. ให้ความเคารพแก่เอกราช อำนาจอธิปไตย ความเท่าเทียม บูรณภาพแห่งดินแดนและเอกลักษณ์ของชาติสมาชิกทั้งหมด
  2. รัฐสมาชิกแต่ละรัฐมีสิทธิที่จะปลอดจากการแทรกแซงจากภายนอก การรุกรานดินแดนและการบังคับขู่เข็ญ
  3. จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของรัฐสมาชิกอื่น ๆ
  4. ยอมรับในความแตกต่างระหว่างกัน หรือแก้ปัญหาระหว่างกันอย่างสันติ
  5. ประณามหรือไม่ยอมรับการคุกคามหรือการใช้กำลัง
  6. ให้ความร่วมมือระหว่างกันอย่างมีประสิทธิภาพ



ส่วนเรื่องเทคโนโลยีนั้น แต่ละประเทศก็มีเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกันพอสมควร ซึ่งแน่นอนว่าประเทศที่มีเทคโนโลยีสูงสุดในอาเซียนก็คือ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีองค์กรที่ชื่อว่า The Agency for Science, Technology and Research ( A*STAR) เป็นหน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะที่ให้การสนับสนุน การวิจัย พัฒนาทางการแพทย์และด้านวิทยาศาสตร์ที่มีความโดดเด่นทั่วโลก อีกทั้งสิงคโปร์ยังมีกองทัพทันสมัยที่สุดในอาเซียน

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ

    คำว่าเทคโนโลยีหลายท่านน่าจะรู้จักคุ้นเคยกันดี แต่ชาวบ้านทั่วไปอาจไม่ทราบความหมายที่แท้จริง เทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ และหาทางนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์

อธิบายง่ายๆ เช่น ทรายที่เราเห็นอยู่ตามพื้นดิน ตามชายหาด ซึ่งมีธาตุที่มีชื่อว่าซิลิกอน ซึ่งแน่นอนทรายที่เราเห้นนี้อาจไม่มีค่า หรือมีราคาต่ำและเรามองข้ามไป เมื่อมีบางคนที่เรียนรู้วิธีการแยกสกัดเอาสารซิลิกอนผ่านกรรมวิธีทางเทคโนโลยีให้บริสุทธิ์ และเจือสารบางอย่างให้เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่าสารกึ่งตัวนำ นำมาผลิตเป็นทรานซิสเตอร์ และจากจำนวนล้านๆทรานซิสเตอร์ก็บรรจุรวมกันเป็นไอซี (Integrated Circuit : IC) มีราคาสูงขึ้นมาจากทรายธรรมดามาก นั้นทำให้เทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ

     ส่วนคำว่าสารสนเทศ ความหมายง่ายๆก็คือ ความรู้ที่เราได้มาจากข้อมูลที่ผ่านการเลือกสรรให้เหมาะสมกับการใช้งานให้ทันเวลา และอยู่ในรูปที่ใช้ได้ ตัวอย่างเช่น ช่วงนี้ฝนตกบ่อย เป็นข้อความที่มีข้อมูลแต่ยังไม่ผ่านกระบวนการให้เหมาะสม แต่ถ้าเราบอกว่า ที่ปัตตานีตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนกันยายนเป็นฤดูร้อน นั่นเอง จึงเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์และผ่านการประมวลผลแล้ว ความรอบรู้ของแต่ละคนจึงขึ้นอยู่กับการเรียกใช้ข้อมูลนั้น ทุกวันนี้มีข้อมูลรอบตัวเรามาก ข้อมูลเหล่านี้มาจากสื่อ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การสื่อสารระหว่างบุคคล จึงมีผู้กล่าวว่ายุคนี้เป็นยุคของสารสนเทศ
ดังนั้นเราจึงสรุปได้สั้นๆว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ ก็คือ การพัฒนาด้านต่างๆเพื่อใช้กับข้อมูลข่าวสาร อาทิเช่น  การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล เป็นต้น ซึ่งนอกจากนี้อาจจะรวมไปถึงการสร้างระบบต่างๆ เช่น ระบบการให้บริการ การใช้ และการดูแลข้อมูล

ในยุคปัจจุบันไม่ว่าเราจะหาข้อมูล ติดต่อ ค้นหา ศึกษาระหว่างกัน ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน ไม่ว่าใกล้ไกลอย่างไรก็ต้องผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศนั่นเอง








ICT กับเศรษฐกิจพอเพียง




     เศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง ทางสายกลาง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่อยูในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำ  ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสมดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียรมีสติปัญญาและความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุสังคมสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม จากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี
  เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  ( ICT ) หมายถึง  การใช้เทคโนโลยีในการแสวงหาเพื่อให้ได้มาข้อมูลและข่าวสาร การติดต่อ  การทำกิจกรรมต่าง ๆ  การ ส่งข้อมูลข่าวสาร และติดต่อปฏิสัมพันธ์กัน เป็นต้น
  
  ปัญหาการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ คือ เนื่องจากเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่นับว่าทันสมัยและเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วมาก เช่น คอมพิวเตอร์  โทรศัพท์มือถือ  ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ เป็นต้น ปัญหาก็คือ

  1.ตัวผู้ใช้เทคโนโลยีสามารถใช้เทคโนโลยีได้ดีมากน้อยแค่ไหนใช้คุมค่าไหม จำเป็นต่อการใช้  เทคโนโลยีชิ้นที่แพงนั้นหรือเปล่า 
 2.คนไม่สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า 
 3.บุคคลที่มีความรู้ความสามารถจริงในเรื่องเทคโนโลยีมีน้อย
 4.การศึกษาของคนในประเทศส่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำ เป็นต้น
เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาการนำเทคโนโลยีมาใช้



เทคโนโลยีสารสนเทศกับเศรษฐกิจพอเพียง
    

ใน สภาวการณ์ปัจจุบันประเทศไทยได้เผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมาย ทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และพัฒนาการของเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนมักตกอยู่ภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคโลกาภิวัฒน์ โดยคนไทยส่วนใหญ่หันไปให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมของชาวตะวันตกมากเกินไป จนลืมวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของตนเองไปปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตและวิถีปฏิบัติที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริชี้แนะแก่พสกนิกรชาวไทยทุกคน เป็นปรัชญาที่ชี้ถึงแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง หรือที่เรียกว่า ความพอเพียง

โดยยึดหลัก 3 องค์ประกอบ 2 เงื่อนไข

ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดี ที่ไม่น้อยเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล และรอบคอบ

การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งใกล้และไกล

เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ อย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน

เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย ความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันเราสามารถนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้กับเศรษฐกิจพอเพียงได้ โดยไม่ต้องยึดติดกับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สามารถคิดเอง ทำเองได้ โดยอาศัยภูมิปัญญาที่มีอยู่ในสังคม 


วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

i pad mini

รู้จักกับ i-pad กันก่อน


ไอแพด คือ แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบและพัฒนาโดยบริษัทแอปเปิล โดยมีหน้าที่หลักในด้านมัลติมีเดียในด้าน ภาพยนตร์ เพลง เกม อีบุ๊ก และท่องเว็บไซต์ ขนาดและน้ำหนักของไอแพดมีขนาดเบากว่าแล็ปท็อป โดยมีน้ำหนัก 680 กรัม และ 601 กรัม สำหรับไอแพดรุ่นแรกและไอแพดรุ่นสองตามลำดับ

ไอแพด มินิ  เป็นอุปกรณ์ประเภทแท็บเล็ต รุ่นที่ 5 ของบริษัท แอปเปิล เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2012 ณ สำนักงานแอปเปิ้ล ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ในรุ่นนี้ มีการเปลี่ยนแปลหลายอย่างไปจาก นิวไอแพด กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซลและบันทึกวิดีโอระดับ 1080p ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด VGA มีระบบปรับความสว่างและโฟกัสอัตโนมัติ และยังรองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ 4G LTE วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ.2012 นี้





ประสิทธิภาพของ iPad mini

สเปกที่ใช้นั้น เรียกได้ว่าถอดแบบมาจาก iPad 2 แทบจะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น
  • ชิปประมวลผล Apple A5 ความเร็ว 1 GHz
  • RAM 512 MB
ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานนั้นไม่ทิ้งห่างไปจาก iPad 2 และ iPhone 4S ซักเท่าไร ซึ่งล่าสุดก็มีการทดสอบด้วย GeekBench ออกมาแล้ว พบว่า iPad mini สามารถทำคะแนนได้สูงกว่า iPad 2 และ iPhone 4S อยู่เล็กน้อย
 
จอแสดงผล
จอที่ใช้ใน iPad mini เป็นจอที่ใช้พาเนล IPS ขนาด 7.9 นิ้ว ความละเอียด 1024 x 768 โดยมีค่าความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 163 ppi ซึ่งสูงกว่าใน iPad 2 ซึ่งมีแค่ 132 ppi เท่านั้น ทำให้ภาพที่เราเห็นบน iPad mini จะมีความเนียนกว่าบน iPad 2 อยู่พอสมควร แต่ก็ไม่ถึงกับระดับ Retina Display เหมือนใน iPad with Retina Display ที่มีจอขนาด 9.7 นิ้ว
นอกจากนี้ที่จอยังมีระบบตรวจจับการวางมือตรงขอบจออีกด้วย ทำให้ผู้ใช้สามารถถือ เพื่ออ่านหนังสือได้โดยไม่ต้องกังวลว่าเมื่อนิ้วไปโดนส่วนริบขอบจอแล้วจะเป็นการเปลี่ยนหน้าหรือสั่งงานแอพโดยไม่ตั้งใจ
กล้องถ่ายภาพ
ด้านของกล้องถ่ายภาพก็ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่า iPad รุ่นก่อนๆ หน้า โดยกล้องหลังมีความละเอียดการถ่ายภาพสูงสุดที่ 5 MP ในขณะที่ iPad 2 มีความละเอียดการถ่ายภาพจากกล้องหลังเพียง 0.7 MP เท่านั้น ส่วนกล้องหน้าของ iPad mini ก็มีความสามารถในการถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงสุด 1.2 MP ส่วนของ iPad 2 นั้นมีความละเอียดเพียง 0.3 MP เท่านั้นเอง ทำให้ iPad mini เหมาะสำหรับการใช้งาน FaceTime มากยิ่งขึ้นกว่าเก่า
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
ตัวของ iPad mini นั้น มีให้เลือกทั้งรุ่น WiFi และ WiFi+cellular ซึ่งส่วนของ cellular นั้นก็รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE ด้วย เช่นเดียวกับ iPad 3 และ iPad 4 ส่วนของ WiFi นั้น รองรับการเชื่อมต่อมาตรฐาน 802.11a/b/g/n ซึ่งตัวของมาตรฐาน n นั้น รองรับการใช้งานทั้งคลื่นความถี่ 2.4 GHz (คลื่นที่ใช้งานทั่วไป) และความถี่ 5 GHz (เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ) ซึ่งที่ความถี่ 5 GHz จะทำให้สามารถใช้งาน WiFi ได้ที่ความเร็วสูงกว่า 2.4 GHz ด้วย แต่ทั้งนี้ตัวกระจายสัญญาณ เช่น WiFi Router หรือ Access Point ต้องรองรับการปล่อยคลื่นที่ 5 GHz ด้วย
บอดี้และรูปร่างตัวเครื่อง
ส่วนของตัวเครื่อง iPad mini นั้น เป็นส่วนผสมระหว่าง iPad กับ iPhone 5 ครับ โดยด้านหน้านั้นคงหน้าตาคล้ายๆ เดิมไว้ จะมีก็ส่วนขอบจอด้านข้างที่มีความบางกว่า iPad ปกติ วัสดุที่ใช้เป็นกรอบหน้าก็ยังคงเป็นกระจกเช่นเดิม ส่วนด้านหลังนั้นจะคล้ายคลึงกับ iPhone 5 ทั้งวัสดุที่เลือกใช้เป็นอะลูมิเนียมเคลือบสี รวมไปถึงสีสันที่มีให้เลือกทั้งรุ่นสีดำและสีขาวก็ใช้สีโทนเดียวกับฝาหลังของ iPhone 5
ทั้งนี้จุดที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ที่สุดก็คือความบางของตัวเครื่องที่เหลือเพียง 7.2 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักก็เพียงแค่ประมาณ 300 กรัม ซึ่งเบากว่า iPad ปกติถึงครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งในจุดนี้จัดว่าเป็นข้อดีที่เห็นได้ชัดของ iPad mini เลยทีเดียว โดยจากการรีวิวของสื่อต่างประเทศ ก็ต่างให้ความเห็นว่าสามารถจับถือ iPad mini ได้ถนัดมือ และยังประทับใจกับน้ำหนักที่เบาด้วย
ภาพรูปร่างหน้าตาของ iPad mini